ครั้งแรกที่ฉันรู้จักชื่อ "อิเคบุคุโระ" คือตอนที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก หลังจากนั้นฉันก็มาทำงานที่ญี่ปุ่นและแวะเวียนไปอิเคบุคุโระอยู่บ่อยๆ แต่หลายปีให้หลังมานี้ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเท่าไหร่นอกจากไปเพื่อทานอาหารจีน วันนี้อากาศแจ่มใสผิดวิสัยฤดูฝน เลยตั้งใจว่าจะลองตามหาความทรงจำพร้อมกับเดินเล่นที่อิเคบุคุโระไปในตัว

เมื่อกล่าวถึงอิเคบุคุโระปั๊บก็มักเป็นที่รู้จักกันดี อิมเมจของอิเคบุคุโระในสายตาทุกคนเป็นอย่างไรเอ่ย? พื้นที่ที่ร้านราเม็งแข่งกันดุเดือด? สวรรค์ของฟุโจชิ? แหล่งรวมตัวของร้านอาหารจีนต้นตำรับ? ความจริงแล้วสถานีอิเคบุคุโระแห่งนี้มีผู้ใช้บริการวันละ 2.71 ล้านคน เป็นสถานีปลายทางที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโตเกียว รองจากชินจูกุ วันนี้ฉันจะแนะนำอิเคบุคุโระที่ทุกคน "เหมือนจะรู้จักแต่จริงๆ ไม่รู้จัก"

1. ประวัติศาสตร์ของอิเคบุคุโระ

อิเคบุคุโระคือหมู่บ้านอิเคบุคุโระในอำเภอโทชิมะของจังหวัดมุซาชิในสมัยก่อน และที่มาของชื่อสถานที่ "ภายใต้การปกครองของโอตะ ชินโรคุโร่ 3 คัน 500 มอน อิเคบุคุโระ" มีบันทึกไว้ในเอกสารโบราณสมัยเซ็นโกคุ "ปีเอย์โรคุที่ 2 ค.ศ.1559" เมื่อเข้ายุคเมย์จิมีการนำระบบเทศบาลมาใช้ อิเคบุคุโระได้รวมเข้ากับหมู่บ้านสึกาโมะ อิเคบุคุโระสมัยนั้นยังเป็นชนบท แต่พอเปิดเส้นทางรถไฟแล้วก็พัฒนาเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี ค.ศ.1885 เส้นทางจากสถานีชินากาวะ-สถานีอาคาบาเนะซึ่งเป็นสายไซเคียวกับสายยามาโนเตะ (บางส่วน) ในปัจจุบันได้เปิดทำการ ทว่าสถานีไม่ได้ถูกสร้างที่อิเคบุคุโระ

ในปี ค.ศ.1903 สถานีอิเคบุคุโระเปิดให้บริการ และอิเคบุคุโระได้พบการปฏิวัติครั้งใหญ่ ตั้งแต่ยุคไทโชจนถึงยุคโชวะ ทางรถไฟโทโจ (โทบุโทโจสายหลักในปัจจุบัน) กับทางรถไฟมุซาชิโนะได้ตัดผ่านเข้าอิเคบุคุโระ ทำให้อิเคบุคุโระกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจในพริบตา อิเคบุคุโระในตอนนี้เป็น 1 ใน 3 ศูนย์กลางย่อยของสายยามาโนเตะที่เทียบเท่าชินจูกุหรือชิบุยะ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านเฉพาะทางทุกประเภท ร้านอาหารมีอยู่มากมายรอบอิเคบุคุโระ เนื่องจากมีทางรถไฟหลายสายขยายเส้นทาง อิเคบุคุโระจึงกลายเป็นสถานที่ที่พลเมืองจากโตเกียวฝั่งตะวันตกกับไซตามะฝั่งใต้-ตะวันตกแวะเวียนมาและสนุกสนานกับการจับจ่ายซื้อของ

2. างสรรพสินค้าโทบุ (สาขาอิเคบุคุโระ)

B1F จุดขายผลิตภัณฑ์อาหาร
ห้างสรรพสินค้าโทบุเชื่อมต่อกับสถานีอิเคบุคุโระโดยตรง ใช้บริการได้สะดวกจากสายโทบุโทโจ นอกจากนี้รถไฟฟ้า JR กับรถไฟฟ้าใต้ดินก็ผ่านด้วยเช่นกัน ฉันมักจะไปกว้านซื้อขนมหรูๆ จากทั่วภูมิภาคญี่ปุ่นที่จุดขายผลิตภัณฑ์อาหารชั้น B1 ของห้างสรรพสินค้าโทบุทุกครั้ง ร้านที่ฉันไปบ่อยที่สุดคือ "เคียวบาชิเซ็นบิคิยะ" เคียวบาชิเซ็นบิคิยะเป็นร้านขายผลไม้ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เปิดกิจการในปี ค.ศ.1881 ปัจจุบันเซ็นบิคิยะแบ่งเป็น 3 บริษัท ได้แก่ นิปปอนบาชิเซ็นบิคิยะสาขาหลัก เคียวบาชิเซ็นบิคิยะ และกินซ่าเซ็นบิคิยะทั้งหมด 3 แห่ง ทั้งสามบริษัทต่างเป็นร้านขายผลไม้โดยเฉพาะ แต่สไตล์การทำธุรกิจของแต่ละบริษัทนั้นไม่เหมือนกันเลย คุณสามารถซื้อของหวานที่ใช้ผลไม้หรูราคาแพงแบบไม่กั๊กได้ที่เคียวบาชิเซ็นบิคิยะแห่งนี้

สถานที่ต่อไปที่จะไปคือชั้นจัดกิจกรรม ชั้น 8 ของห้างสรรพสินค้าโทบุ สำหรับคำว่าชั้นจัดกิจกรรมนั้นหมายถึงสถานที่มีไว้จัดอีเวนท์ตามช่วงระยะเวลา อีกไม่นานจะหมดฤดูฝนและโตเกียวจะเข้าสู่ช่วงอากาศร้อนที่สุดของปี ในช่วงนี้จะมีเทศกาลดอกไม้ไฟสุดฮิต และ "ตลาดใหญ่กิโมโนฤดูร้อน (ตลาดรวมชุดกิโมโนฤดูร้อน)" จะจัดขึ้นเพื่อการนั้น ขอแนะนำสำหรับผู้อยากใส่ชุดยูคาตะของตัวเองไปชมเทศกาลดอกไม้ไฟกับผู้อยากลองใส่เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น รายละเอียดอีเวนท์ของที่นี่จะอัพเดททุกสัปดาห์หรือทุก 2 สัปดาห์ ใครที่อยากทราบข้อมูลอีเวนท์ล่าสุดล่ะก็กรุณาเช็คที่เว็บไซต์ของห้างสรรพสินค้าโทบุโดยตรง

สถานที่ที่จะไปต่อคือจุดขายเครื่องเคลือบกับภาชนะทุกประเภทที่ชั้น 6 ฉันหลงใหลของพวกนี้มาก วันนี้มีนิทรรศการ "เครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ" พอดี คิดว่าทุกคนน่าจะชอบเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ ซึ่งเป็นเครื่องเคลือบดินเผาที่เป็นหน้าตาของญี่ปุ่นเหมือนกันแน่

พบถ้วยทำจากไทเทเนียมในที่ชั้นวางสินค้าอีกชั้น นี่คือของสะสมหายากอัดแน่นด้วยวิทยาการของญี่ปุ่นที่อวดกับโลกได้ และถูกมอบเป็นของขวัญแก่ผู้นำมากกว่า 20 ประเทศเมื่อคราว APEC2010 จากการแนะนำของสต๊าฟ เขาบอกว่าแม้ใส่น้ำแข็งลงในถ้วยทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 2 ชั่วโมงก็ยังละลายไม่ถึง 1/3 ของทั้งหมด ยอดไปเลย

ขอแนะนำร้านอิโต้ยะที่ชั้น 7 แก่ผู้ที่ชอบเครื่องเขียน ของที่ฉันสนใจคือหมึกสีสำหรับปากกาหมึกซึม เหตุผลที่สนใจก็เพราะว่าแต่ละสีถูกตั้งชื่อแบบเป็นภาษากวี รู้สึกว่าหากใช้ปากกานี้เขียนตัวหนังสือล่ะก็เขียนออกมาได้สวยแน่แม้ไม่ต้องฝึก นอกจากนี้ยังมีปากกาหมึกซึมกับอุปกรณ์สำหรับเขียนอื่นๆ ครบครัน

ต่อไปจะลองไปจุดขายนาฬิกาที่แวะไปเสมอ ยี่ห้อนานาชาติถูกรวบรวมไว้ที่จุดขายแห่งนี้ งาน World Watch Fair ซึ่งเป็นเทศกาลนาฬิกาจะจัดที่ห้างสรรพสินค้าโทบุทุกเดือน ส.ค. ฉะนั้นต้องแวะมาดูงานนี้ด้วย! ว่ากันว่าจุดขายนาฬิกาที่ห้างสรรพสินค้าโทบุกว้างขวางที่สุดในเมืองหลวง ยี่ห้อนาฬกาของญี่ปุ่นมีชื่อเสียง แต่ก็โดดเด่นด้านประโยชน์ใช้สอยจริงอีกทั้งราคาย่อมเยา ถ้ามีโอกาสไปห้างสรรพสินค้าโทบุล่ะก็ควรแวะไปดูอย่างยิ่ง

เมื่อเดินมาถึงตรงนี้ก็ใกล้เวลามื้อกลางวันแล้ว ภายในห้างสรรพสินค้าโทบุมีร้านอาหารมากมาย โดยมีมากกว่า 40 ร้านตั้งแต่ชั้น 11-15 วันนี้นึกอยากทานลิ้นวัว ถ้าลิ้นวัวล่ะขอแนะนำร้าน "อาโอบะ" เลย ที่จีนก็มีชื่อเสียง แน่นอนว่ารสชาติก็อร่อยมาก

ว่าแต่ว่า หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวล่ะก็ เพียงแสดงรูปภาพคูปองแลกและพาสปอร์ตที่เคาน์เตอร์ปลอดภาษี ณ "เคาน์เตอร์ปลอดภาษี" ของห้างสรรพสินค้าโทบุ จะสามารถแลกคูปองส่วนลด 5% ได้ บวกกับปลอดภาษี 8% (ที่เคาน์เตอร์ปลอดภาษีห้างสรรพสินค้าโทบุจะไม่เสียค่าดำเนินการใดๆ) รวมแล้วลดราคา 13% ได้กำไรจริงๆ

3. บริเวณรอบสถานีอิเคบุคุโระ

ห้างสรรพสินค้าโทบุตั้งอยู่ที่อิเคบุคุโระประตูตะวันตก หลังจากทานอาหารกลางวันแล้วออกไปทางประตูตะวันตก ก็มองเห็นสวนสาธารณะอิเคบุคุโระประตูตะวันตก สวนสาธารณะประตูตะวันตกเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อเสียง เคยมีละครมาถ่ายทำที่นี่ในอดีตด้วย อีกทั้งโรงละครศิลปะโตเกียวก็ตั้งอยู่ข้างสวนสาธารณะอิเคบุคุโระประตูตะวันตก การแสดงต่างๆ เช่น คอนเสิร์ตหรือละครจะถูกจัดที่นี่ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างสัญลักษณ์ประจำอิเคบุคุโระประตูตะวันตก เวลานัดเจอกับเพื่อนที่อิเคบุคุโระ หากบอกว่า "โรงละครศิลปะโตเกียว" ล่ะก็รับรองไม่หลงทางแน่นอน

หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดรอบอิเคบุคุโระคงหนีไม่พ้นซันไชน์ซิตี้ สถานที่ที่คนหนุ่มสาวชื่นชอบ เช่น ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ จุดชมวิว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ต่างรวมอยู่ที่นี่ ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว เลยตั้งใจว่าวันนี้อยากไปให้ได้

1. SKY CIRCUS จุดชมวิวซันไชน์ 60

จุดชมวิวซันไชน์ 60 เปลี่ยนจากจุดชมวิวประเภทชมอย่างเดียวแบบที่เคยเป็นมา กลายเป็นจุดชมวิวประเภทสัมผัสประสบการณ์ เมื่อยืนมองจากดาดฟ้าที่ความสูง 251 เมตรจากน้ำทะเลก็จะเห็นท้องฟ้าสีฟ้ากับทิวทัศน์งดงาม ที่นี่ไม่เพียงมองเห็นกลุ่มตึกชินจูกุที่อิเคบุคุโระตะวันตกเฉียงใต้กับสกายทรีที่อิเคบุคุโระเหนือเท่านั้น ยังมองเห็นภูเขาฟุจิได้ในวันที่อากาศดีเป็นพิเศษด้วย

ทางเข้าจุดชมวิวอยู่ที่ชั้นใต้ดินชั้น 1 ของตึกซันไชน์ซิดี้ สำหรับผู้ที่กลัวนักท่องเที่ยวเยอะในวันหยุดหรือไม่อยากต่อแถวซื้อตั๋ว สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตได้ การขึ้นไปยังจุดชมวิวจะใช้งานลิฟท์ แป๊บเดียวก็ไปถึงในชั่วครู่จากชั้น B1-60

ไม่เพียงทิวทัศน์จากจุดชมวิว เมื่อเข้าไปในอุโมงค์ชื่อ "Mugen Scape" แสงกับกระจกจะประสานงานกัน สามารถสัมผัสฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่นได้จากซากุระ ปลาทอง ใบไม้แดง หิมะที่เปลี่ยนแปลง พอประกอบกับดนตรีแล้วทำให้รู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในกล้องสลับลายอันใหญ่เลย

ลองส่องเข้าไปในรูระหว่างผนังด้านนอกของ Mugen Scape ที่ปูด้วยกระจกสีรุ้ง สิ่งที่ปรากฏในดวงตาตือวิดีโอภาพอิมเมจของอะตอม น่าสนใจตรงที่สามารถใช้มือถือถ่ายบริเวณใกล้ๆ แล้วเก็บช่วงเวลาสวยงามไว้เป็นภาพถ่ายได้

SKY PARTY ก็น่าสนใจเช่นกัน จอจะตรวจจับสถานที่อยู่ของคน นักท่องเที่ยวรอบๆ สนุกกับการถูกล้อมด้วยพายุหมุน ถูกพายุฝนไล่ตาม หรืออยู่ๆ มีฟ้าร้องเหนือศีรษะ มีเครื่องรูปทรงปืนใหญ่มนุษย์ที่เป็น VR เสมือนด้วย ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ดูแล้วน่าสนใจดี อยากเล่นจัง

2. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซันไชน์

คุณจะมองเห็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซันไชน์อยู่ด้านล่างจากจุดชมวิวเมื่อครู่นี้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซันไชน์สร้างขึ้นโดยยึดคอนเซ็ปท์เป็นโอเอซิสเมืองหลวง แมวน้ำที่ว่ายเอื่อยๆ ในแทงค์น้ำทรงโดนัทที่ติดตั้งอยู่เหนือศีรษะ บางครั้งมันจะอาบแดดแบบเหม่อๆ บางครั้งก็ดำน้ำลงไปในสระ น่ารักมาก หรือว่าเพราะไม่ค่อยเห็นดวงอาทิตย์อันเป็นผลจากฤดูฝนกันหนอ บรรดาเพนกวินก็ว่ายน้ำในแทงค์น้ำเหนือหัวราวกับโบยบินอย่างอิสระบนฟากฟ้าและสนุกอย่างเต็มที่ ได้ใกล้ชิดและเล่นกับพวกสัตว์นี่ช่างมีความสุขจริงๆ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแบ่งเป็น 2 ส่วนคือในอาคารกับนอกอาคาร ภายในอาคารก็จะเป็นอีกโลกหนึ่งไปเลย สัมผัสได้ถึงความโรแมนติกกับความเงียบ เลยคิดว่าที่นี่แหละเหมาะที่คู่รักจะมาเดทกันที่สุด ตอนที่มองดูฝูงปลาเคลื่อนไหวตามใจอย่างอิสระ ฉันรู้สึกเหมือนได้ดำลงไปในทะเลลึกจริงๆ

จุดชมวิวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่างเหลือความประทับใจตราตรึงไว้ให้ฉัน อิเคบุคุโระมีสถานที่แบบนี้ด้วยแฮะ! ตัวฉันในสมัยก่อนไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยล่ะ

3. โอโตเมะโร้ด

อิเคบุคุโระถูกเรียกว่าเป็น "สวรรค์ของฟุโจชิ" ตรงข้ามกับอากิฮาบาระที่เป็น "สวรรค์ของโอตาคุ" ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้จากไกด์มาอีกทีเมื่อหลายปีก่อน คุณจะพบสถานที่ที่เรียกว่า "โอโตเมะโร้ด" นี้ที่ข้างๆ ซันไชน์ซิตี้ มีร้านค้าเกี่ยวกับอนิเมสำหรับผู้หญิงมากมาย สินค้าในตู้ขายของอัตโนมัติก็มีความพิเศษ โดยเป็นสินค้าจำกัดเฉพาะทั้งหมด ลูกค้าของร้านแถบนี้เป็นผู้หญิงซะเยอะ

บันทึกเดินทางวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ ครั้งหน้าจะพาเพื่อนไปอิเคบุคุโระด้วยกัน!

างสรรพสินค้าโทบุ (สาขาอิเคบุคุโระ)
http://www.tobu-dept.jp/ikebukuro/tnb/language/english.html