นิกโก้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่าง ๆ จนถูกประกาศให้เป็นเขตมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1999 โดยองค์การยูเนสโก ซึ่งได้แก่ ศาลเจ้า Nikko Toshogu , ศาลเจ้า Nikko Futarasan และวัด Nikko Rinnoji ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมมากๆเลยล่ะ

วิธีเดินทาง

การเดินทางไปเมืองนิกโก้ครั้งนี้ เราจะใช้ Nikko Pass ซึ่งมีราคา 2,040 เยน ถูกมาก ๆ เลยล่ะ โดยจะเริ่มต้นที่สถานี Tobu Asakusa ซึ่งเป็นสถานีเล็ก ๆ อยู่ใกล้กับสี่แยกตรงอาซาคุสะนั่นเอง เข้าไปในตึก EKIMISE ก็จะเจอกับด้านในสถานีกับ Tobu Tourist Information Center (ขายพาสนิกโก้ต่างๆ ) เปิดบริการ 7.20 น. - 19.00 น. หรือถ้าใครเดินทางมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน ให้เราเดินตามป้ายเพื่อจะไปทางออก 7

ด้านหน้าห้องจำหน่ายพาส มีข้อมูลภาษาอังกฤษให้อ่านคร่าวๆด้วยนะ

แนะนำ Nikko Pass

เรามาทำความรู้จักพาสเที่ยวเมืองนิกโก้กันเถอะ พาสจะมีทั้งหมด 2 แบบคือแบบเที่ยว 4 วัน และแบบเที่ยว 2 วัน เราสามารถเลือกได้ตามสะดวกเลย

NIKKO PASS ALL AREA 4 DAYS

พาสเที่ยว 4 วัน เรียกว่า Nikko Pass All Area หมายถึง คุณสามารถท่องเที่ยวได้ทุกโซน ทั้งโซนธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ออนเซ็น เรียกได้ว่าเที่ยวแบบเต็มอิ่มและจุใจกันอย่างแน่นอน เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติและอยากใช้เวลาที่นี่นาน ๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เริ่มในต้นเดือนตุลาคม

โดยราคาของพาส Nikko Pass All Area จะแบ่งตามช่วงฤดูกาล
20 เมษายน - 30 พฤศจิกายน ผู้ใหญ่ 4,600 เยน เด็ก 1,180 เยน ( 6-11ขวบ)
1 ธันวาคม - 19 เมษายน ผู้ใหญ่ 4,320 เยน เด็ก 1,060 เยน ( 6-11ขวบ)
**สำหรับพาสการท่องเที่ยวในโซนนิกโก้ 4 วัน 3 คืน การเดินทางไปนิกโก้ ที่รวดเร็วเราควรจะนั่งรถไฟขบวนด่วนพิเศษ ซึ่งจะต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยทั้งขาไปและขากลับ รวมทั้งสิ้น 2,320 เยน
ก็จะเป็นค่าพาส 4,600 เยน + 2,320 เยน เป็น 6,920 เยน เรียกได้ว่าพาสนี้คุ้มสุดคุ้ม แถมซื้อก็ง่าย ซื้อก่อนเดินทางในวันนั้นก็ยังได้

NIKKO PASS WORLD HERITAGE AREA 2 DAYS

พาสนี้ เหมาะสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเช้า-เย็นกลับ หรืออยากไปพักแค่คืนเดียวแล้วกลับ อาจจะเที่ยวแค่โซนศาลเจ้า Kinugawa onsen เมืองจำลอง Tobu World Square ก็สบาย ๆ

ส่วนเส้นทางรถไฟก็น้อยลงมาตามขนาดของพาส แต่ก็ยังถือว่าคุ้มเพราะแต่ละที่ ๆ ไปได้นั้น ก็นับว่าเป็นจุดพีคเหมือนกัน ถ้าไปค้าง 1 คืนนอนเรียวกัง แช่ออนเซ็นวิวสวย ๆ ก็เติมเต็มทริปญี่ปุ่นได้สมบูรณ์ที่สุดแล้วล่ะ ในส่วนของราคา เพียง 2,040 เยนก็ไปได้ทั้งขาไปและขากลับ แถมยังโดยสารรถบัสเที่ยวในโซนมรดกโลกได้อย่างจุใจ

*เงื่อนไข สถานีที่ออกเดินทางคือ อาซาคุสะ/โตเกียวสกายทรี แต่ทั้งนี้ เราควรเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยเปลี่ยนไปนั่งขบวนด่วนพิเศษแทนเพื่อใช้เวลาในการเดินทางให้น้อยลง เพิ่มเวลาเที่ยวให้ยาวนานขึ้น บวกเพิ่มอีก 2,320 เยน ก็จะเป็น พาส+รถไฟในการเดินทางไป-กลับ คือ 2,040 เยน + 2,320 เยน เป็น 4,320 เยน/คน แต่เดินทางถึงที่หมายได้เร็วขึ้นเยอะ

ซึ่งความแตกต่างของพาสนิกโก้ทั้งสองแบบนี้ คือจะสามารถเข้าไปเที่ยวเมืองนิกโก้แล้วได้ลดราคาพิเศษได้แตกต่างกัน จะมีจุดไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย

บริเวณนิกโก้
- พิพิธภัณฑ์ธรรมชาตินิกโก้
- นิกโก้คิริฟุริสเก็ตเซ็นเตอร์ (ฤดูหนาว ลานสเก็ตกลางแจ้ง)
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะนิกโก้อนุสรณ์โคะสุคิโฮอัน
- นิกโก้แอสเทเรียโฮเทล
- เรือทะเลสาบชูเซ็นจิ (ให้บริการกลางเมษา - 30 พฤศจิกายน) *ฟรีด้วย Nikko Pass All Area
- รถบัสมลพิษต่ำ (ให้บริการกลางเมษายน - 30 พฤศจิกายน ระหว่างอะคะนุมะชาโคะ - เซ็นจุกาฮามะ)*ฟรีด้วย Nikko Pass All Area
- อะเคจิไดระโรปเวย์ * ฟรีด้วย Nikko Pass All Area

บริเวณคินุกาวะออนเซ็น
- โทบุเวิลด์สแควร์ (ลดจาก2800 เยน เหลือ 1800 เยน)
-บ่ออาบน้ำจากหินในสวนคินุกาวะ
-หมู่บ้านนิกโก้เอโดะ เอโดะวันเดอร์แลนด์ (ลดจาก 4700 เยน เหลือ 4230 เยน)
-คินุกาวะออนเซ็นโรปเวย์
-ภูเขาโอซารุ
** อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

และสำหรับใครที่อยากเที่ยวต่อไปยังโซน AIZU จ.ฟุคุชิม่า ที่อยู่ติดกัน และมีธรรมชาติสวยงามเช่นกัน ทางสายรถไฟโทบุเค้าก็ตอบสนองความต้องการได้ตรงใจมากๆ ด้วยการเดินรถไฟยาวไปยังโซนนี้เลย ว้าววว ! เอาใจนักท่องเที่ยวอย่างเราสุดๆ เพียงแต่ต้องเปลี่ยนรถไฟอีกรอบแค่นั้นเอง ง่ายและสะวดกมากเลยใช่มั้ยล่ะ
ตรวจสอบเส้นทางได้ที่นี่ >> เว็บไซต์ภาษาไทย
http://aizu-route.com/th/

ทางสายรถไฟโทบุเค้าก็ได้แนะนำพาสเที่ยวอย่างจุใจอีกเช่นเคย คือ Yuttari ( Relaxing) Aizu Tobu Free Pass ระยะเวลาพาส 4 วัน

เนื่องจาก ถ้าไปจากอาซาคุสะ บางขบวนก็มีไปยาวเปลี่ยนแค่ครั้งเดียว และบางขบวนก็เปลี่ยน 2 ครั้ง แล้วแต่รอบการเดินทางเรา ดังนั้นก่อนเดินทางควรสอบถามเจ้าหน้าที่ไว้ก่อน ถ้าเดินทางติดวันเสาร์ อาทิตย์แนะนำว่าควรจองที่นั่งจะดีที่สุดนะ

ได้ข้อมูลกันมามากมายแล้ว เรามาเริ่มเดินทางกันเถอะ!

เดินทางสู่ Tobu World Square

การเข้าไปในชานชลาคือ เราต้องไปที่ห้องเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ด้านข้าง ยื่นตั๋วและพาสให้เจ้าหน้าที่สถานีดูเพื่อตรวจเช็ค ถ้าไม่มั่นใจเรื่องชานชาลารอรถก็ให้ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย

สิ่งที่เราต้องดูเพื่อความแน่ใจอย่างแรกคือ ป้ายไฟข้างตู้รถไฟ เดินทางด้วยขบวน Revaty

ขบวนนี้พิเศษกว่าที่อื่นคือ แม้จะเป็นแค่รถไฟด่วนพิเศษแต่ก็มีที่เสียบชาร์จมือถือได้ด้วยนะ

พิเศษที่สุด ที่ทำให้การเดินทางกับรถไฟขบวนนี้เพลิดเพลินมากขึ้น คือในขบวนนี้มี Free Wifi ที่ทันสมัยมาก ๆ ให้ได้ใช้บริการกันด้วย แถมยังต่อไวไฟได้ง่ายมาก บางช่วงที่ผ่านภูเขาสูง ไวไฟอาจจะหลุด แต่ก็ต่อใหม่ได้เรื่อยๆ ไม่มีจำกัด

มาดูกันว่า Nikko Pass จะพาเราไปสนุกที่ไหนได้บ้าง จุดหมายแรกของเรา ป้าย Tobu World Square เนื่องจากรถไฟจอดแต่ละสถานีเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เราจึงควรลุกเตรียมตัว ไปยืนรอที่ประตูทางออก ด้านนอกสถานี Tobu World Square สวยทันสมัยมาก แค่ด้านหน้าก็ตื่นตาตื่นใจแล้วล่ะ

ตั๋วและพาสที่ใช้ลดราคาค่าเข้า

ที่แรกที่เราจะพาไปชมคือ โตเกียวทาวเวอร์ ได้ยืนส่องอย่างใกล้ชิดกันเลยทีเดียว

แล้วก็มาโตเกียวสกายทรีกัน ด้านล่างเก็บรายละเอียดครบมาก

ด้านล่างตึกโตเกียวสกายทรีจะมีต้นไม้อยู่ แล้วนี่คือต้นซากุระจิ๋วของจริง ! พอช่วงใบไม้ผลิ ก็จะออกดอกเหมือนต้นใหญ่เลย น่าทึ่งมาก ใครไปนิกโก้ช่วงต้นเมษา ลองไปดูนะ

งานอียิปต์ก็มา พีระมิดสวยงามมาก เหมือนมีคนงานก่อสร้างกำลังทำงานอยู่

The Parthenon จากประเทศกรีซ วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) คือวิหารโบราณบนเนินอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แม้จะเป็นเมืองจำลอง แต่ก็สร้างมาได้อลังการมาก ๆ

Forbidden City จากจีน พระราชวังต้องห้าม อยู่ใจกลางเมืองปักกิ่ง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมินตอนนี้เป็นหนึ่งในมรดกโลกไปแล้ว

Yungang Buddhist Caves จากจีน ถ้ำผาหยุนกังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งปฏิมากรรมโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีนก็จำลองมาให้ดูกัน

มาดูทางฝั่งทีมญี่ปุ่นกันบ้าง นี่คือวัดYakushi-ji Temple จากนารา สวยงามน่าตามรอยมาก รายละเอียดขนาดย่อ สเกล 1/25 ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องเป๊ะได้ขนาดนี้เลย!

Rokuon-ji Golden Pavilion หรือ Kinkakuji ตั้งอยู่เมืองเกียวโต ตัวศาลาทองทั้งหลัง ยกเว้นชั้นใต้ดิน ปิดคลุมด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและโบราณวัตถุมีค่าอื่น ๆ บนยอดหลังคาของศาลามีรูปหล่อทองคำรูปนกโฮโอ

ฝั่งฮิโรชิม่าก็มีนะ ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ(Itsukushima Shrine) ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า ดูสีของน้ำทำเป็นประกายซะเหมือนเลย

และไม่ลืมที่จะแวะเที่ยวที่วัดน้ำใส Kiyomizu-dera วัดเก่าแก่แห่งเมืองเกียวโต มีประวัติศาสตร์มากกว่า 1,200 ปี

รายละเอียด
ชื่อ TOBU WORLD SQUARE
ที่อยู่ 209-1 Ogahara Kinugawa Onsen Nikko, Tochigi Prefecture 321-2593
เวลาทำการ 9.30 - 19. 00
เบอร์โทรศัพท์ 0288-77-1055
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2800 เยน เด็ก 1400 เยน ถ้าแสดง Nikko Pass ให้เจ้าหน้าที่ดูตอนซื้อตั๋วจะได้ส่วนลดทันที เหลือ 1800 เยน
เว็บไซต์ http://www.tobuws.co.jp/en/

มุ่งหน้าไปศาลเจ้า Nikko Toshogu

ท้องอิ่มแล้วเราก็เดินทางต่อด้วยชานชาลาเดิม แพลนเดิมคือเราต้องเดินทางด้วย Tobu Kinugawa Line/Tobu Nikko Line ไปลงสถานีโทบุนิกโก้

เราจะนั่งขบวนอื่นไปลงที่สถานี Shimo - Imaichi แล้วเปลี่ยนขบวนอีกครั้ง คราวนี้เราจะนั่งรุ่นคลาสสิคสีแดงแล้วนะ

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสถานีโทบุนิกโก้แล้ว บนชานชาลารถไฟ ปกติจะมีตารางเวลา เส้นทาง ควรถ่ายรูปเก็บไว้ดู เผื่อวางแผนตอนขากลับ

ออกมาแล้วจะเจอห้องนี้ นี่คือจุดซื้อตั๋วและ Tobu Nikko Station Tourist Center มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ สามารถเข้าไปสอบถามการนั่งรถ รถไฟ ป้ายรถบัส ขอรับตารางรถบัสและอื่น ๆ ได้

เดินออกมาด้านหน้าสถานีโทบุนิกโก้ แล้วก็ไปรอที่ป้าย 2B

ตอนลงก็ยื่นพาสให้คนขับรถอีกที ลงทางด้านหน้าเลย ป้าย เบอร์ 83 ชื่อ Omotesando และขากลับสถานีเราก็จะมายืนรอที่เดิมอีกเช่นเคย

ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เดินเข้าไปในบริเวณศาลเจ้านิกโก้โทโชกุได้เลย ใช้เวลาเดินเข้าไปประมาณ 10 นาที

ป้าย Toshogu และด้านหลังเป็น Ishidorii Gate เป็นประตูโทริอิที่ทำจากหินอันแข็งแกร่ง ซึ่งประตูนี้อุทิศถวายโดยขุนนางชั้นสูง เมื่อปี ค.ศ. 1618 โดยการลำเลียงหินมาทางเรือจากเกาะคิวชู

สามารถดูแผนผังของศาลเจ้านิกโก้โทโชกุได้จากลิงค์นี้ http://www.toshogu.jp/english/map/index.html

ลวดลายแกะสลักที่ประตูหน้า Yomeimon Gate ช่างเป็นงานที่วิจิตรศิลป์มากๆ

อาคารสีแดงสวยนี้เรียกว่า Sanjinko (โกดังศักดิ์สิทธิ์สามแห่ง) และให้สังเกตด้านบน จะมีงานแกะสลักช้างขนาดใหญ่ซึ่งมาจากจินตนาการของช่างสมัยนั้นที่ไม่เคยเห็นช้างมาก่อน นี่คือสมบัติชาติญี่ปุ่นเลยนะเนี่ย

จุดเริ่มต้นบันไดทางขึ้นไปสุสานของท่านโชกุน Ieyasu Tokugawa

ถึงด้านบนแล้ว นี่แหล่ะถึงจะเรียกว่ามาถึงศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ สร้างด้วยความสง่างามสมเกียรติ

รายละเอียด
ชื่อ NIKKO TOSHOGU SHRINE
ที่อยู่ 2301 Yamauchi, Nikko-shi, Tochigi Prefecture 321-1431
เวลาทำการ เมษายน - ตุลาคม 9.00 - 16.00
พฤศจิกายน - มีนาคม 9.00 - 15.00
เบอร์โทรศัพท์ 0288-54-0560
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1300 เยน
เด็ก 450 เยน * เด็ก หมายถึง ประถมและมัธยมต้น
เว็บไซต์ http://www.toshogu.jp/english/index.html

ชมวิวเมืองสุดตระการตาที่ TOKYO SKYTREE

ขากลับนั่งรถไฟไปลงที่สถานีโตเกียวสกายทรี มาดูแสงสีสุดตระการตาของมหานครโตเกียวกัน มีสองจุดให้ขึ้นชมได้ เราจะไปทั้งสองชั้นเลย รวมสองชั้นแล้วก็ราวคนละ 3,000 เยนนิด ๆ ทางเดินนี่แบบอลังการดาวแปดล้านดวงมาก

ส่วนวิวด้านล่าง พระเจ้า! วิว 360 องศานี่มันดีอย่างนี้นี่เอง เดินหาโตเกียวทาวเวอร์บ้าง หาชินจูกุบ้าง หาโอไดบะบ้าง อันนี้ง่ายหน่อยเพราะมีชิงช้าสวรรค์อยู่ใกล้ กลางคืนก็สวย ตอนเย็นมีแสงทไวไลท์น่าจะยิ่งสวยขึ้นไปอีก

มีพื้นกระจกแบบมองเห็นวิวด้านล่างด้วยนะ ถ้าเป็นตอนกลางวันจะลุ้นระทึกขนาดไหน

รายละเอียด
ชื่อ TOKYO SKYTREE
ที่อยู่ 1-2 Oshigami Sumida-ku, Tokyo 101-0045 Tokyo
เวลาทำการ 8.00 - 22.00 * เข้าชมรอบสุดท้าย 21.00
ค่าเข้าชม
TOKYO SKYTREE TEMBO DECK ชั้น 350
อายุ 18 ปีขึ้นไป 2,060 เยน / อายุ 12-17 ปี 1540 เยน / อายุ 6-11 ขวบ 930 เยน / อายุ 4-5 ปี 620 เยน TOKYO SKYTREETEMBO GALLERIA ชั้น 450 (ซื้อตั๋วได้จากชั้น 350 )
อายุ 18 ปีขึ้นไป 1030 เยน / อายุ 12-17 ปี 820 เยน / อายุ 6-11 ขวบ 510 เยน / อายุ 4-5 ปี 310 เยน เวบไซต์ http://www.tokyo-skytree.jp/th/

ข้อสรุป
Nikko Pass ของ Tobu ช่วยให้คนที่มีงบประหยัดสามารถท่องเที่ยวในเมืองแห่งมรดกโลกอย่าง Nikko ได้อย่างเพลิดเพลินอย่างเต็มที่ พาสมีใช้ทั้งแบบ 2 วันและ 4 วัน ซึ่งถือว่าจุใจและเต็มอิ่ม เหมาะสมกับแพลนของผู้เดินทางที่จะเลือกใช้พาสนี้ในทุกช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด