บริเวณใกล้โตเกียวอย่างคินุกะวะออนเซ็นหรือนิกโก สามารถไปได้แบบเช้าเย็นกลับ คนญี่ปุ่นชอบพูดกันว่าเหมือนได้ย้อนเวลา เพราะนิกโกมีศาลเจ้าและสุสานที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน หรือเรียวกังที่มีออนเซ็นที่ยังหลงเหลือบรรยากาศญี่ปุ่นโบราณ ทั้งหมดนี้บวกกับประสบการณ์บนรถจักรไอน้ำ (SL) TAIJU ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาจริงๆ

นั่งรถจักรไอน้ำของจริงกับ SL TAIJU

สำหรับทริปครั้งนี้ จุดมุ่งหมายสูงสุดคือการนั่งรถจักรไอน้ำ และเป็นสิ่งที่ฉันตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุด ถ้าพูดถึงรถไฟ ฉันให้ญี่ปุ่นเป็นอันดับต้นๆ เลย ตอนแรกก็คิดว่านั่งแบบไหนก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่พอได้นั่งแล้วก็กลายเป็นประสบการณ์ที่วิเศษสุดจริงๆ คนแคนาดาอย่างฉันรู้สึกว่าการเดินทางไปไหนมาไหนในโตเกียวค่อนข้างยาก ด้วยความซับซ้อนของเส้นทางรถไฟ และการเดินทางก็ค่อนข้างใช้เวลา ฉันจึงไม่เคยนึกมาก่อนว่าการนั่งรถไฟจะสนุกขนาดนี้ SL TAIJU ทำให้ชีวิตประจำ "วันธรรมดา" ของฉันกลายเป็น "วันพิเศษ" ยิ่งกว่าวันไหนๆ

รถไฟโบราณขบวนนี้วิ่งระหว่างสถานีชิโมะอิมาอิชิถึงสถานีคินุกะวะออนเซ็น และส่วนใหญ่จะวิ่งไม่กี่รอบในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั๋วจำหน่ายอยู่ตามสถานีรถไฟสาย Tobu หรือที่ Tobu Tourist Information Center ชั้น 1 สถานีอาซะกุสะ หรือทางออนไลน์ก็ซื้อได้เช่นกัน ถ้าก่อนขึ้นรถจักร SL TAIJU ยังพอมีเวลา อาจจะแวะชมรอบๆชิโมะอิมาอิชิก็ได้นะ แม้แต่ตัวสถานีก็ทำมาจากไม้ ทำให้ได้กลิ่นหอมของไม้สดใหม่ ประกอบกับภายนอกได้บรรยากาศย้อนยุคเต็มๆ

ภายในสถานีมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก บอกเล่าเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของรถไฟและรถจักรไอน้ำ ตัวนิทรรศการเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่โชคดีที่มี่แผ่นพับเป็นภาษาอังกฤษด้วย

ฉันได้ยินเสียงหวูดพร้อมกับไอน้ำที่พรั่งพรูขณะรถจักรเข้าเทียบสถานี ซึ่งไม่ค่อยจะได้ยินได้บ่อยนัก เห็นแค่นี้ก็ทำให้ใจเต้นแล้ว ผู้คนที่ยืนอยู่บนชานชาลา รวมถึงคนในหน้าต่างรถจักรต่างโบกมือให้ฉันอย่างกับในหนังฮอลลีวูด บนรถฉันได้ของแจกอย่างสติกเกอร์และขนมขบเคี้ยว คินุกะวะโด่งดังเรื่องออนเซ็นจึงได้เกลืออาบน้ำมาด้วย บังเอิญว่าช่วงนั้นมีเทศกาลฮินะพอดี (3 มี.ค. เทศกาลเด็กผู้หญิง) ท่ามกลางบรรยากาศแบบย้อนยุคจึงเต็มไปด้วยของตกแต่งทั่วรถไฟ แม้แต่พนักงานบนรถไฟก็แต่งชุดฮากามะด้วย ฉันรู้สึกดีใจจริงๆ ที่เลือกมาด้วยรถไฟในครั้งนี้

คินุกะวะออนเซ็น - เมืองแห่งออนเซ็น

รถจักรไอน้ำ SL TAIJU จะออกรถที่สถานีชิโมะอิมาอิจิ และไปสิ้นสุดที่สถานีคินุกะวะออนเซ็น ก่อนที่ฉันกำลังจะมุ่งหน้าไปสำรวจคินุกะวะออนเซ็น ก็มีโอกาสได้เห็นรถจักรกำลังหมุนเพื่อเปลี่ยนทิศกลับไปทางสถานีชิโมะอิมาอิจิ ถ้าฉันมีเวลาอีกสักนิดก็คงเลือกที่จะอยู่หลายวันหน่อย จะได้ค้างคืนตามเรียวคัง และใช้เวลาผ่อนคลายในออนเซ็นชื่อดัง แม้ฉันจะมีเวลาแค่วันเดียวแต่ก็โชคดีที่มีโอกาสได้สัมผัสน้ำร้อนคินุกะวะ โดยการซื้อผ้าขนหนูที่จุดประชาสัมพันธ์ และมาลองออนเซ็นเท้าแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นออนเซ็นเท้า (น้ำร้อนสำหรับแช่เท้า) ครั้งแรกของฉัน จากนั้นไม่นานฝนก็ดันตกลงมา แต่ถือเป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายมาก

นอกจากของฝากที่สามารถซื้อได้บนรถจักร SL TAIJU แล้ว รอบๆ สถานีคินุกะวะออนเซ็นยังมีบรรดาร้านของฝากที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ร้านที่ฉันถูกใจที่สุดคงเป็นร้าน Hachiya Baum Kuchen ที่ได้กระเป๋าสตางค์และเค้กบามคูเฮนกลับมาด้วย

พอได้พักเติมพลังและอบอุ่นร่างกายเรียบร้อยแล้ว ฉันก็มุ่งหน้าไปชมธรรมชาติที่หุบเขาริวโอ ที่นั่นสวยมาก เสียงของลำธารและน้ำตกฟังเพลินและผ่อนคลาย ลำธารสีฟ้าอมเขียวที่ไหลลงมาจากหุบเขาริวโอเป็นภาพอันงดงามที่ฉันไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

ใกล้กับบริเวณนี้ ฉันได้กินของอร่อยอย่างคินาโกะโมจิ และโซบะกับยูบะ (ฟองเต้าหู้) เป็นมื้อเที่ยง ยูบะเป็นของขึ้นชื่อของแถวนี้เลย ใครได้มาก็มากินกันนะ!

Tobu World Square - โลกใบนี้เป็นของคุณ!

ธีมปาร์คที่คินุกะวะออนเซ็นแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ทุกคนออกเดินทางไปดูโลกกว้าง ทั้งมรดรกโลก 47 แห่ง รวมแล้วมีสิ่งก่อสร้างอันโด่งดังรอบโลกกว่า 102 แห่ง 21 ประเทศ ทั้งหมดถูกนำมาย่อส่วนในขนาด 1/25 เหมือนกับได้เดินทางรอบโลกในครั้งเดียว เดินเล่นถ่ายรูปรอบเอเชีย ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา เผลอครู่เดียวเวลาก็ผ่านไปเยอะแล้ว ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ก็มีเครื่องออดิโอไกด์ให้ได้ฟังถึง 4 ภาษา ที่ฉันประทับใจเป็นพิเศษคือโมเดลจำลองของพระราชวังเปเตียร์กอฟแห่งรัสเซีย ด้วยน้ำตกที่สวยงามและเพลงที่เปิดเป็นแบคกราวน์ทำให้ได้บรรยากาศ ซึ่งตั้งแต่เดือนพ.ย. - มี.ค.มีจัดแสดงตกแต่งไฟด้วย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่อยากให้พลาดที่นี่เลย

จบทริปด้วยแผนการครั้งหน้า

ระหว่างขากลับจากทริปที่แสนสนุก ฉันก็นึกวางแผนถึงทริปครั้งหน้าเสียแล้ว การจัดทริปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวต้องวางแผนให้ดี การไปคินุกะวะออนเซ็นต้องต่อรถไฟหลายครั้ง ควรวางแผนเส้นทางไว้ล่วงหน้าจะดีกว่า ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าฉันก็อยากพักที่เรียวคังในคินุกะวะออนเซ็น โดยเฉพาะช่วงใบไม้แดงในหุบเขาริวโอ แล้วก็พาหลานชาย 10 ขวบไปเที่ยว Tobu World Square ด้วย เผื่อเขาจะกระตือรือร้นอยากไปเที่ยวรอบโลกขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ที่นี่คุ้มค่ากับการไปซ้ำหลายรอบจริงๆ จะได้ลองบรรยากาศในหลายๆ ฤดู และแน่นอนว่าจะได้สัมผัสกลิ่นอายย้อนยุคบนรถจักร SL TAIJU ด้วย