1/4
ทิวทัศน์อันน่าเกรงขามของจุเฮียว (ต้นไม้น้ำค้างแข็ง) แห่งซะโอที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ต้นไม้น้ำค้างแข็งแห่งซะโอ: ทัศนียภาพสุดพิเศษที่จับใจผู้คนที่ได้ยลทุกครั้งไป

เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของต้นไม้น้ำค้างแข็งจากกลางอากาศระหว่างนั่งกระเช้าลอยฟ้า

จุเฮียวเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยความสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างภูมิทัศน์ หิมะตกหนัก และลมหนาวยะเยือกตามฤดูกาล จนสามารถเปลี่ยนป่าสนเป็นเหมือนอย่างรูปที่เห็นข้างต้น ดังนั้นจึงมีแค่ไม่กี่แห่งในภูมิภาคโทโฮคุที่จะได้พบปรากฏการณ์พร้อมทัศนียภาพอันยอดเยี่ยมแบบในซะโอ เนื่องจากต้นไม้น้ำค้างแข็งซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมีรูปร่างและขนาดต่างๆ กัน พวกมันจึงได้รับฉายาว่า "อสุรกายหิมะ" น้ำแข็งจะเริ่มสะสมประมาณปลายเดือนธันวาคม และจับตัวหนามากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนาคมอันเป็นช่วงสามสี่เดือนที่เหมาะแก่การรับชมมากที่สุด เราตัดสินใจนั่งกระเช้าลอยฟ้าตอนกลางวันและขี่สโนว์โมบิลตอนกลางคืนเพื่อจะได้สำราญใจกับทิวทัศน์ดังกล่าวจากมุมและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

ขี่สโนว์โมบิลท่องเที่ยวในโลกแห่งเวทมนตร์ของ Juhyo Illusion Corridor

การขี่สโนว์โมบิลจะพาคุณไปพบกับ "อสุรกายหิมะ" ที่มีการประดับไฟ

ฤดูของต้นไม้น้ำค้างแข็งมีระยะเวลาเพียง 53 วันในแต่ละปี (ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคมถึง 4 มีนาคม) โดยสามารถเดินทางได้โดยขึ้นกระเช้าลอยฟ้าจากสถานี Juhyo-kogen ไปถึง สถานี Jiza Sancho สามารถชมการประดับไฟต้นไม้น้ำค้างระหว่างขึ้นกระเช้าได้ หรือจะขี่สโนว์โมบิลบนหิมะเพื่อรับชมความงามและสีสันของของการประดับไฟแบบใกล้ๆก็ได้เช่นกัน เพราะที่นี่มีทัวร์ ""Juhyo Illusion Corridor"" หากได้ไปเยือนซะโอในฤดูหนาว ก็อย่าพลาดชมทัวร์นี้ (จองล่วงหน้า) เราเริ่มด้วยการนั่งกระเช้าลอยฟ้าจากสถานี Zao Sanroku ไปยังสถานี Juhyo-kogen ต่อจากตรงนั้นสโนว์โมบิลจะพาเราไปชมต้นไม้น้ำค้างแข็งโดยรอบ ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มนักท่องเที่ยวมาแย่งกันถ่ายภาพ ""อสุรกายหิมะ"" จากทุกมุม ระหว่างทางเจ้าหน้าที่จะบอกให้รู้ว่า ควรรับชมต้นไม้ใกล้ๆ จากจุดใดมากที่สุด จากนั้นเราก็ลงจากไนท์ครูซมาเพื่อถ่ายรูปซึ่งเป็นจุดเดียวที่ลงไปถ่ายได้ ท่ามกลางบรรยากาศลึกลับทว่าโรแมนติกอันก่อเกิดจากแสงสว่างและเงา อย่างไรก็ดี การถ่ายรูปเพื่อเก็บความลึกลับของต้นไม้เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากว่าหากใช้แฟลชในวันหิมะตก ภาพก็จะมีละอองหิมะปรากฏขึ้นเป็นจุดๆ ช่วงสุดท้ายของทัวร์ เรานั่งกระเช้าลอยฟ้าต่อไปยังสถานี Zao Sancho เพื่อรับชมการแสดงแสงสีบนยอดเขา แม้ว่าวันนั้นอุณหภูมิจะลดต่ำถึงลบ 9 องศาเซลเซียส ทัศนียภาพน่าตกตะลึงของต้นไม้น้ำค้างแข็งท่ามกลางแสงสีแดงและสีเขียวก็คุ้มค่ากับความพยายามที่อดทนท่ามกลางความหนาวเย็นแล้ว

จะมีการเปิดไฟส่องต้นไม้น้ำค้างแข็งเพียงประมาณ 50 วันต่อปี

ทัศนียภาพอันน่าประทับใจจากมุมสูงขณะนั่งกระเช้าลอยฟ้า

กระเช้าลอยฟ้าเผยให้เห็นทิวทัศน์ของหิมะขาวโพลนแบบ 360 องศา

เราตัดสินใจเลี่ยงฝูงชนกลุ่มใหญ่ที่มาเล่นสกีด้วยการตื่นเช้าและนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปยังสถานี Juhyo-kogen ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 1,331 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หลังเข้าไปในบริเวณของจุเฮียว ก็พบว่าหมู่ไม้น้ำค้างแข็งที่แผ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตารอรับพวกเราอยู่ นอกจากนี้เรายังได้เห็นน้ำค้างเปล่งประกายระยิบระยับใต้แสงแดด ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จะได้เห็นเฉพาะผู้ขึ้นกระเช้าลอยฟ้ายามเช้าตรู่เท่านั้น

นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันจำนวนนับไม่ถ้วนจะยกโขยงกันมาเยือนซะโอทุกปี จึงมีป้ายประกาศแบบพิเศษเป็นอักษรจีนตัวเต็มโดยเฉพาะพร้อมข้อความที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ ป้ายนี้ติดอยู่ตรงทางเข้าสถานี Zao Sanroku เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน
เมื่อได้มองลงไปจากกระเช้าลอยฟ้า ใครๆ ก็อดไม่ได้ที่จะอัศจรรย์ใจกับทัศนียภาพงดงามเบื้องล่าง

หลังนั่งกระเช้าลอยฟ้าสองต่อ รวมเป็น 18 นาที เราก็มาถึงสถานี Zao Sancho ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่ระดับความสูง 1,661 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สิ่งแรกที่เราได้เห็นคือผืนหิมะอันแผ่กว้างและท้องฟ้าสีคราม งดงามจนลืมความหนาวเหน็บทารุณเอาได้ง่ายๆ เลยทีเดียว เราเดินทางออกจากสถานี มุ่งหน้าไปชมพระพุทธรูป Jizo ที่ลือกันว่าสูง 2 เมตร ทว่า เบื้องหน้ามองไม่เห็นพระพุทธรูป Jizo หรือของที่ดูใกล้เคียงแต่อย่างใด หลังสำรวจดูใกล้ๆ มากขึ้น เราจึงได้รู้ว่าพระพุทธรูป Jizo ถูกฝังอยู่ใต้หิมะ และมองเห็นได้เฉพาะครึ่งท่อนบนเท่านั้น ต่อจากนั้นเราก็เดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวเพื่อรับชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ และป่าจุเฮียว ฉันจึงพยายามแทรกตัวเข้าไปในฝูงชนเพื่อให้ได้ไปยืนชมทิวทัศน์อันสมบูรณ์แบบในแถวหน้าเหมือนกัน หลังจากนั้นเราก็ลงกระเช้าลอยฟ้าโดยมีต้นไม้น้ำค้างแข็งเป็นฉากหลัง ภาพที่ดูราวกับบทกวีตราตรึงอยู่ในใจจนฉันยังจำได้ไม่มีวันลืมจนถึงทุกวันนี้ หากคุณทนรับอากาศหนาวกลางแจ้งไม่ไหว แนะนำให้ถือโอกาสนี้ซื้อเครื่องดื่มอุ่นๆ จากร้านอาหารบนยอดเขา จะได้ดื่มพลางเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันอลังการได้อย่างผ่อนคลาย

นักท่องเที่ยวจำนวนมากมารวมตัวกันที่สถานี Mt. Jizo เพื่อรับชมจุเฮียว (ต้นไม้น้ำค้างแข็ง) และเพลิดเพลินกับการเล่นสกี
หิมะปกคลุมพระพุทธรูป Jizo จึงเห็นเฉพาะครึ่งท่อนบนท่ามกลางผืนหิมะสีขาวโพลน
จุดชมวิวเป็นสถานที่อันดีเยี่ยมสำหรับการถ่ายรูป
ลูกค้าที่มารับประทานอาหารสามารถรับชมจุเฮียวจากกระจกหน้าต่างภายในร้านอาหารด้วย
ขอยืมรองเท้ายางกันน้ำได้จากสถานี Mt. Jizo

เคล็ดลับป้องกันความหนาว: อุณหภูมิที่ยอดเขามักลดลงต่ำกว่าลบ 10 องศา จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับสภาพอากาศอันทารุณ ทาง Zao Ropeway ได้เตรียมรองเท้ายางกันน้ำให้นักท่องเที่ยวยืมใช้ได้ฟรีทุกเมื่อที่ต้องการ!

สถานที่และพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง